พระราชมงคลรังษี วิ.
เจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร
อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า ประยงค์ วรรณประดิษฐ์ เกิดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2472 ที่หมู่ 3
ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายดุสดี และ นางกั๊ก วรรณประดิษฐ์
ในช่วงวัยเยาว์ จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 โรงเรียนวัดแสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา หลังจากเรียนจบชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนในหมู่บ้าน ได้ไปใช้ชีวิตฆราวาส แต่อุปนิสัยของท่าน เป็นผู้มีจิตใจโน้มเอียงเข้าหาพระธรรม เวลาว่างจากงาน ได้พยายามศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา รวมทั้งแนวทางปฏิบัติของพระสายกัมมัฏฐาน
กระทั่งอายุ 38 ปี เกิดความเบื่อหน่ายชีวิตทางโลก ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2510 ณ วัดท่าสะอ้าน ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา มีพระครูธรรมกิจจานุรักษ์ วัดอุสภาราม ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เป็นพระอุปัชฌาย์, พระสมุห์แจ่ม ทันตธัมโม วัดอุสภาราม ต.บางวัว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระครูบัว โรย สีลเตโช วัดท่าสะอ้าน เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ได้รับฉายา ปิยวัณโณ
หลังเข้าสู่ร่มเงาผ้ากาสาวพัสตร์แล้วได้จำพรรษา ที่วัดท่าสะอ้าน เพื่อศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย หลังมุมานะศึกษาอยู่หลายปี พ.ศ.2514 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ ที่สำนักเรียนคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา
ตลอดเวลาหลวงปู่ได้เฝ้าปรนนิบัติรับใช้ดูแลอุปัฏฐากพระอุปัชฌาย์อย่างใกล้ชิด พร้อมกับได้ฝึกฝนวิปัสสนากัมมัฏฐาน ทำให้ท่านมีความเชี่ยวชาญทั้งพระธรรมวินัยและวิปัสสนากัมมัฏฐาน
ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2521 เป็นรองเจ้าอาวาสวัดท่าสะอ้าน พ.ศ.2528 เป็นเจ้าคณะตำบลบางวัว พ.ศ.2529 เป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ.2532 เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าสะอ้าน พ.ศ.2546 เป็นเจ้าคณะอำเภอบางปะกง
พ.ศ.2552 รับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดโสธร วรารามวรวิหารอย่างเป็นทางการแล้ว
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระพิพิธกิจจาภิวัฒน์
ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2552 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชมงคลรังษี
ทั้งนี้ พระราชมงคลรังษี มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัยเป็นอย่างยิ่ง ท่านได้กำหนดกฎระเบียบเข้มไว้ด้วยวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ทำให้ท่านมีชื่อเสียงอยู่ในศรัทธาของญาติโยมชาวบางปะกงอย่างรวดเร็ว ในแต่ละวันมีญาติโยมจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบนมัสการรับฟังธรรมจากท่านอย่างล้นหลาม
สำหรับปัจจัยที่ได้รับการบริจาคจากญาติโยม ได้นำมาพัฒนาให้กับวัดแห่งนี้ อาทิ ประตู กุฏิ ศาลาการเปรียญ เป็นต้น
พระราชมงคลรังษี พร่ำสอนให้ญาติโยมยึดคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ให้หมั่นประกอบแต่กรรมดี รู้จักการทำบุญให้ทาน อย่าเห็นแก่ตัว ตายไปแล้วทรัพย์สินใดๆ ก็เอาติดตัวไปไม่ได้ ขอให้ยึดหลักความพอเพียง ชีวิตตนเองและครอบครัวจะประสบแต่ความเจริญรุ่งเรือง
พระราชมงคลรังษี
กล่าวเปิดงานในโครงการ
ปฎิบัติวิปัสสนากัมมฐาน ประจําปี ๒๕๕๓
อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า ประยงค์ วรรณประดิษฐ์ เกิดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2472 ที่หมู่ 3
ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายดุสดี และ นางกั๊ก วรรณประดิษฐ์
ในช่วงวัยเยาว์ จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 โรงเรียนวัดแสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา หลังจากเรียนจบชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนในหมู่บ้าน ได้ไปใช้ชีวิตฆราวาส แต่อุปนิสัยของท่าน เป็นผู้มีจิตใจโน้มเอียงเข้าหาพระธรรม เวลาว่างจากงาน ได้พยายามศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา รวมทั้งแนวทางปฏิบัติของพระสายกัมมัฏฐาน
กระทั่งอายุ 38 ปี เกิดความเบื่อหน่ายชีวิตทางโลก ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2510 ณ วัดท่าสะอ้าน ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา มีพระครูธรรมกิจจานุรักษ์ วัดอุสภาราม ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เป็นพระอุปัชฌาย์, พระสมุห์แจ่ม ทันตธัมโม วัดอุสภาราม ต.บางวัว เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระครูบัว โรย สีลเตโช วัดท่าสะอ้าน เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ได้รับฉายา ปิยวัณโณ
หลังเข้าสู่ร่มเงาผ้ากาสาวพัสตร์แล้วได้จำพรรษา ที่วัดท่าสะอ้าน เพื่อศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย หลังมุมานะศึกษาอยู่หลายปี พ.ศ.2514 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ ที่สำนักเรียนคณะจังหวัดฉะเชิงเทรา
ตลอดเวลาหลวงปู่ได้เฝ้าปรนนิบัติรับใช้ดูแลอุปัฏฐากพระอุปัชฌาย์อย่างใกล้ชิด พร้อมกับได้ฝึกฝนวิปัสสนากัมมัฏฐาน ทำให้ท่านมีความเชี่ยวชาญทั้งพระธรรมวินัยและวิปัสสนากัมมัฏฐาน
ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2521 เป็นรองเจ้าอาวาสวัดท่าสะอ้าน พ.ศ.2528 เป็นเจ้าคณะตำบลบางวัว พ.ศ.2529 เป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ.2532 เป็นเจ้าอาวาสวัดท่าสะอ้าน พ.ศ.2546 เป็นเจ้าคณะอำเภอบางปะกง
พ.ศ.2552 รับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดโสธร วรารามวรวิหารอย่างเป็นทางการแล้ว
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระพิพิธกิจจาภิวัฒน์
ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2552 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชมงคลรังษี
ทั้งนี้ พระราชมงคลรังษี มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัยเป็นอย่างยิ่ง ท่านได้กำหนดกฎระเบียบเข้มไว้ด้วยวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ทำให้ท่านมีชื่อเสียงอยู่ในศรัทธาของญาติโยมชาวบางปะกงอย่างรวดเร็ว ในแต่ละวันมีญาติโยมจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบนมัสการรับฟังธรรมจากท่านอย่างล้นหลาม
สำหรับปัจจัยที่ได้รับการบริจาคจากญาติโยม ได้นำมาพัฒนาให้กับวัดแห่งนี้ อาทิ ประตู กุฏิ ศาลาการเปรียญ เป็นต้น
พระราชมงคลรังษี พร่ำสอนให้ญาติโยมยึดคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ให้หมั่นประกอบแต่กรรมดี รู้จักการทำบุญให้ทาน อย่าเห็นแก่ตัว ตายไปแล้วทรัพย์สินใดๆ ก็เอาติดตัวไปไม่ได้ ขอให้ยึดหลักความพอเพียง ชีวิตตนเองและครอบครัวจะประสบแต่ความเจริญรุ่งเรือง
รับตราตั้งเจ้าอาวาส วัดโสธรวราราม โดย ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฎิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช |
กล่าวเปิดงานในโครงการ
ปฎิบัติวิปัสสนากัมมฐาน ประจําปี ๒๕๕๓